คลินิกทันตกรรมรูปแบบทันสมัย

ขั้นตอนการจัดฟันครอบใส

อธิบายการจัดฟันครอบใส

การจัดฟันครอบใส ใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของทันตแพทย์เท่านั้น

เมื่อมาพบทันตแพทย์เพื่อปรึกษา/รับการจัดฟันครอบใส
ทันตแพทย์จะตรวจประเมินฟัน การสบฟัน กระดูกขากรรไกร ใบหน้า และ ถ่ายภาพเอกซเรย์ ฟิล์มใหญ่ทั้งขากรรไกร
จากนั้นจะพิมพ์ฟันหรือสแกนฟันด้วยเครื่องสแกนฟันดิจิทัล ๓ มิติ เพื่อบันทึก ข้อมูลภาพของฟันและการสบฟัน สำหรับวางแผน

ฟันจำลองการสบฟัน

การรักษาด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ทันตแพทย์จะใช้ Computerized Digital Imaging เพื่อดูและปรับรูปแบบการเคลื่อนของฟันในทุก ๆ ระยะของ ชุดอุปกรณ์จัดฟันครอบใส จนถึงผลลัพธ์สุดท้ายของการจัดฟัน
เมื่อวางแผนการรักษาเสร็จสิ้น ทันตแพทย์จะนัดผู้ป่วยมาเพื่ออธิบายแผนการรักษาและทางเลือกการรักษาให้ผู้ป่วยทราบ
โดยสามารถแสดงลักษณะการเรียงตัวของฟันในรูปแบบ VDO ซึ่งจะทำให้เห็นภาพว่า ฟันมีการเคลื่อนที่ไปในทิศทางใดโดยประมาณ ทำให้คนไข้เกิดความเข้าใจได้ง่ายขึ้น
ทั้งระหว่างการรักษาและหลังการรักษา จากนั้นก็จะเป็นกระบวนการผลิตของแลป ทันตกรรมที่จะผลิตชุดอุปกรณ์จัดฟันครอบใสตามจำนวน ที่วางแผนไว้
เมื่อมีการนัดหมายผู้ป่วยให้มารับอุปกรณ์ จัดครอบฟันใส ทันตแพทย์อาจจะติดปุ่มยึดบนฟัน (attach-
ment) พร้อมส่งมอบชุดอุปกรณ์จัดฟันแบบใสให้ผู้ ป่วย โดยจะนัดผู้ป่วยกลับมาพบทันตแพทย์ทุกๆ 1-2 เดือน
ผู้ป่วยจะต้องร่วมมือ

ใส่อุปกรณ์จัดฟันใสอย่างน้อย ๒๒ ชั่วโมงต่อวัน  หรือ ๑-๒ เดือน

โดยประมาณหรือตามที่ทันตแพทย์นัดหมาย เพื่อติดตามความแนบสนิทของอุปกรณ์จัด
ฟัน กับตัวฟัน ติดตามผลความคืบหน้าในการรักษา
รวมทั้งการแก้ไขกรณีที่อุปกรณ์จัดฟันในไม่แนบสนิท กับตัวฟัน พร้อมทั้งรับชุดอุปกรณ์จัดฟันแบบใสชุด
ถัดไป
ถ้าฟันเคลื่อนไม่ได้ตามตำแหน่งที่วางไว้ ทันต-แพทย์อาจทำการสแกนฟันใหม่เพื่อสั่งผลิตอุปกรณ์
จัดฟันใสชุดใหม่ต่อไป (ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่าย ขึ้นอยู่กับแผนการรักษาที่คนไข้เลือก)
เมื่อฟันเคลื่อนตัวไปยังตำแหน่งที่วางแผนเรียบร้อยแล้ว การจัดฟันเป็นอันเสร็จสมบูรณ์ คนไข้
จะต้องดูแลรักษารูปฟันไว้ไม่ให้กลับไปซ้อนเก ด้วยการใส่เครื่องมือคงสภาพฟัน (retainer)
อยากจัดฟันใสต้องปรึกษาทันตแพทย์เท่านั้น
แม้ว่าชุดอุปกรณ์จัดฟันใสจะถูกวางแผนด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แต่สิ่งสำคัญคือ จะต้องใช้
ทักษะความสามารถของทันตแพทย์ในการตรวจ และ วางแผนการรักษา

 

Dentique Dental Care คลีนิค หมอฟัน CDC

คลีนิค หมอฟัน CDC  มาง่าย มีที่จอดรถมากมาย พร้อมให้บริการด้วยความใส่ใจ

Dentique Dental Care  ตั้งอยู่ ชั้นสอง อาคาร K5  CDC จุดสังเกต ใกล้ ธนาคารกรุงเทพ ใกล้ MAXValu หมอฟัน CDC

คลินิค หมอฟัน CDC  คลินิกทันตกรรมรูปแบบทันสมัย พร้อมให้บริการทันตกรรมการรักษาและทันตกรรมด้านความสวยงาม ทันตกรรมสำหรับเด็ก ทันตกรรมเฉพาะทาง ทันตกรรมทั่วไปโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา

บรรยากาศสะอาด มีการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ ที่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ กรองฝุ่น PM 2.5  เจ้าหน้าที่ทุกท่าน ได้รับการฉีดวัตซีนครบ เพื่อให้ ผู้ใช้บริการมั่นใจ ทุกครั้งที่รับบริการ

บรรยากาศในคลินิค เป็นกันเอง มีมุม สำหรับน้องน้อง เพื่อผ่อนคลาย

ทันตแพทย์และเจ้าหน้าที่ทุกท่านได้รับวัคซีนครบ 3 เข็ม ให้บริการด้วยความใส่ใจและปลอดภัยสูงสุด

พร้อมให้คำแนะนำ ข้อมูล ด้วยความกันเอง เพราะเราตระหนักดีว่า

“ความเข้าใจ คือ จุดเริ่มต้นของการรักษาที่ดี” 

คลีนิคหมอฟัน CDC  Dentique CDC K5 ชั้น 2  บรรยากาศคลินิคCDC

 

ทำฟัน รามอินทรา

ทำฟัน รามอินทรา กับหมอฟันรุ่นใหม่ มือเบา หมดปัญหาภายในช่องปาก

ทำฟัน รามอินทรา เพื่อให้ฟันทำหน้าที่ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ มีการสบฟันที่ดีขึ้น เคี้ยวอาหารได้ดีขึ้น เสริมสร้างบุคลิคภาพ เพิ่มความมั่นใจยิ่งขึ้น

คลีนิค ทำฟัน รามอินทรา ให้บริการ ทันตกรรมทั่วไป แบบครบวงจร, ทันตกรรมเพื่อความสวยงาม, ทันตกรรมเฉพาะทางเด็ก, งานศัลยกรรมช่องปาก,  รักษาโรคเหงือก, ทันตกรรมรากเทียม, ทันตกรรมจัดฟัน, รักษารากฟัน, งานฟันปลอม, ฟอกสีฟัน บริการมาตรฐานสากล ครอบคลุมทุกด้าน ภายใต้การดำเนินงานโดยทันตแพทย์ ที่มีประสบการณ์สูง

การทำฟัน นอทำฟัน รามอินทรา บริการครบวงจรกจากเพื่อความสวยงาม และ การที่มีสุขภาพที่ดี ภายในช่องปาก แล้วยังช่วยให้เรา มั่นใจยิ่งขึ้น กล้ายิ้มมากขึ้น เราควรที่จะ ไปหาหมอฟันก่อนที่จะสายไป เพราะหากฟันผุมากๆ แล้ว อาจจะทำการรักษายากขึ้น คลีนิคทำฟัน รามอินทรา อาจจะต้องถอนฟัน ออกแล้วใส่ฟันปลอมแทน หรือ อาจใส่รากฟันเทียมแทน ซึ่ง รากเทียม คือวิทยาการ ที่คิดค้นขึ้น เพื่อทดแทนการสูญเสียฟันธรรมชาติ โดยจะฝังวัสดุที่มีรูปร่าง คล้ายรากฟันลง บนกระดูกขากรรไกร เพื่อช่วยให้ฟันปลอมภายในช่องปากยึดเกาะได้ดี

รากเทียมประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญคือ

  1. รากเทียม ซึ่งทำมาจากโลหะไทเทเนียม มีลักษณะคล้ายรากฟัน และจะฝังอยู่ในกระดูกขากรรไกร ซึ่งสามารถยึดติดได้อย่างแนบแน่น โดยไม่ทำให้เนื้อเยื่ออักเสบ และไม่เกิดผลข้างเคียงใดๆ
  2. เดือยรองรับครอบฟัน เมื่อฝังรากเทียม บนกระดูกขากรรไกร จะใช้เวลาประมาณ 4-6 เดือน เพื่อให้รากเทียม ยึดติดกับ กระดูกขากรรไกรได้ดี หลังจากนั้น จึงจะใส่เดือย รองรับครอบฟันลงบนรากเทียม เพื่อใช้เป็นที่รองรับ ครอบฟันต่อไป
  3. ครอบฟัน เป็นส่วนที่อยู่ด้านบนของเหงือก ซึ่งจะทำมาจากเซรามิค มีรูปร่างลักษณะ และสี เหมือนฟันธรรมชาติ

รากเทียม ทำฟัน รามอินทรา

สุขภาพช่องปากเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพทั่วไป เพราะโรคภัยต่างๆ ที่เกิดขึ้น มีปัจจัยมาจากสภาวะ ภายในช่องปากของเรา รวมไปถึงข้อสังเกต โรคบางประการ ที่สามารถสังเกตเห็น ได้จากปัญหาสุขภาพภายในช่องปาก อาทิเช่น โรคเยื่อบุหัวใจอักเสบ โดยพบว่าอาการติดเชื้อ บริเวณเยื่อบุหัวใจ มีการตรวจพบเชื่อแบคทีเรีย ชนิดเดียวกับในช่องปาก ซึ่งเชื่อแบคทีเรียอาจจะเข้าสู่กระแสเลือด และไปทำให้เกิดการอักเสบบริเวณนี้ได้ หรือโรคหัวใจ มีรายงาทางการแพทย์บางฉบับศึกษาพบว่า คนที่ไม่ดูแลสุขภาพช่องปาก มีการอักเสบติดเชื้อในช่องปาก มีความสัมพันธ์กับอุบัติการการเปิดโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น หัวใจวาย เส้นสมองอุดตัน เป็นต้น คลีนิคเรา ให้ความใส่ใจในจุดนี้ เป็นรากฐานสำคัญในการเริ่มต้นการรักษา

หมอฟัน รามอินทรา

คลีนิคหมอฟัน CDC

คลีนิค ทันตกรรม CDC รักษารากฟัน ทำฟันเทียม หมอฟัน รามอินทรา โดยทีมทันตแพทย์มืออาชีพ

หมอฟัน รามอินทรา ทันตกรรมเฉพาะทาง ภายใต้การดำเนินงานโดยทันตแพทย์ ที่มีประสบการณ์การทำฟัน จัดฟัน ผ่าฟันคุด ใส่ฟัน รักษาฟัน รักษารากฟัน โดยเฉพาะ

ที่ตั้ง โครงการ  CDC K5 ชั้นสอง เดินทางสะดวก มีที่จอดรถมากมาย ไม่มีค่าใช้จ่ายในการจอดรถ ดำเนินการรักษาโดยทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง มีทันตกรรมทั่วไป ทันตกรรมเพื่อความสวยงาม จัดฟัน จัดฟันครอบใส  และมี ทันตกรรมเด็ก เพื่อทำฟันเด็ก โดยเฉพาะ

คลีนิคทันตกรรมให้บริการดูแลสุขภาพภายในช่องปากให้แก่ประชาชนทั่วไป และการรักษาเฉพาะทาง

ทำหน้าที่ดูแล และบำรุงรักษาโรคฟัน โรคเหงือก และความผิดปกติต่างๆ ภายในช่องปาก ซึ่งสุขภาพปาก และฟันที่ดี จะนำไปสู่สุขภาพร่างกายโดยรวมที่ดี เพราะสัญญาณของ โรคร้ายแรงบางอย่าง มักแสดงอาการโดยเริ่มจาก เกิดความผิดปกติ ภายในช่องปากก่อน เป็นอันดับต้นๆ

การสืบค้น สาเหตุของความเจ็บปวด คือ สิ่งสำคัญ  หมอฟัน รามอินทรา ให้บริการรักษาฟันทั่วไปทัตนแพทย์จะตรวจช่องปาก สิ่งแรกจะเริ่มที่ การซักประวัติ และ ถาม เกี่ยวกับ อาการที่พา คนไข้ มาหาหมอ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญ ไม่แพ้ การตรวจวินิจฉัย อย่างอื่น ยิ่งตอบ คำถามตรง และ ถูกต้องก็ยิ่งทำให้หมอวินิจฉัย ได้ ตรง โรคมากที่สุด

ขอแนะนำ ปกติแล้วเราควรไปพบทันตแพทย์ เพื่อรับการตรวจช่องปากในขณะที่ยังไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ไม่ใช่ต้องมีอาการแล้วจึงไป การไปตรวจเช็คช่องปากนั้น นอกจากเพื่อตรวจหารอยโรค เพื่อรับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ แล้ว ยังเป็นการไปเพื่อรับรู้ ระดับความเสี่ยงต่อการเกิดโรคของตนเอง รับรู้วิธีการดูแลตนเอง เพื่อลดความเสี่ยง

แล้ววางแผนการตรวจเช็คครั้งถัดไป ได้อย่างเหมาะสม หรืออย่างน้อยควรพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจช่องปากทุกๆ 6 เดือนเป็นประจำ

เพื่อป้องกัน และ รักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้น เช่นโรคฟันผุ และโรคเหงือกอักเสบ ซึ่งการรักษาจะง่าย เจ็บปวดน้อยกว่า และที่สำคัญค่าใช้จ่ายถูกกว่า ที่จะมารักษาเมื่อเป็นมากแล้ว อย่างแย่ที่สุด ถ้ามาช้าไปอาจเก็บฟันซี่นั้นไว้ไม่ได้ ก็ต้องถูกถอนออก แล้วทำฟันปลอมในที่สุด

ฟันปลอม ไม่ใช่ ฟันแท้ ก่อนตัดสินใจจะทำต้องการพิจารณา ข้อดี อเสีย ของ แต่ละชนิด แล้วก็ตัดสินใจ ว่าจะใส่แบบใด ฟันปลอม ถ้าใส่ไปแล้ว บางคน ก็ อาจจะเจ็บ หรือ เวลาเคี้ยว ก็ หลวมหรือ กระดก หรือ เสียวฟัน ที่อยู่ติดกับ โครงของ ฟันปลอม

ฟันปลอม ที่ทำ ถูกวิธีจริงๆ แล้วจะไม่มีอันตรายต่อ ฟันที่เหลืออยู่ และ จะช่วยใน การบดเคี้ยว อาหาร ได้ดี ถ้าทำอย่างถูกต้อง ถ้ากดฟัน แต่งฟัน ได้ดี และ ทำคลองฟัน ได้ดี แนบสนิท กับ ฟันจริง ก็จะไม่มี ผลเสีย แต่หาก ฟันปลอม กดทับ แน่นเกินไป กดฟันมากไป ก็ทำให้เสียวฟัน ปัญหาที่เกิดขึ้นผู้ป่วย ต้องไปให้แพทย์แก้ไขปัญหา ก่อน

ขั้นตอนการทำ ฟันปลอม เราจะให้ ข้อมูล ของ ฟันปลอม แต่ละ ชนิดประสิทธิภาพ และ ระยะเวลาการใช้งาน ของ ฟันปลอม เพื่อจะเป็น ทางเลือก ให้กับ ผู้ทำ กำลังตัดสินใจ ที่ จะมา ทำฟันปลอม

การ รักษาโรค และความผิดปกติ ของฟันและช่องปาก ด้วยการศัลยกรรมหมอฟัน รามอินทรา รักษาฟัน ให้ยา และวิธีการอื่นๆ ตรวจปากและฟันของผู้ป่วย ใช้เครื่องเอ็กซเรย์ และ ทดสอบตามความจำเป็น เพื่อจะได้ทราบถึงลักษณะของความผิดปกติ พิจารณา ผลของการตรวจ และ การทดสอบ และ ตกลงใจเลือกวิธีการรักษาต่อไป

 

ร่องฟันห่าง

ฟันหน้า ห่าง ร่องฟันกว้าง ปัญหาที่ทำให้ภาพลักษณ์ ดูเปลี่ยนไป

ทำให้เกิดความไม่มั่นใจ เมื่อต้องยิ้มหรือพูดคุยกับบุคคลทั่วไป  ปัญหาฟันห่าง อาจจะเปิดขึ้นได้ทั้งวัยเด็ก และ ผู้ใหญ่ หรือ วัยกลางคนอายุ 45 ปีขึ้นไป

ผลกระทบที่พบบ่อยสำหรับ บุคคลมีภาวะ ฟันห่าง คือ กัด หรือ เคี้ยวอาหาร ได้ยากขึ้น และ อาจจะทำให้ เหงือกอักเสบได้ง่ายกว่า คนปกติทั่วไป

ฟันห่าง เกิดได้ จากหลายสาเหตุ

สาเหตุของฟันห่าง ไม่ว่าจะเป็นความผิดปกติของสุขอนามัยช่องปากและฟัน  โรคเหงือก หรือ แม้กระทั่งนิสัยบางอย่างที่ทำบ่อยบ่อย ดังนี้

  1. ความผิดปกติของเนื้อเยื่อที่ยึดเกาะใต้ลิ้นกับพื้นด้านล่างของช่องปาก หรือเนื้อเยื่อใต้ริมฝีปากบนกับเหงือก บางคนมีเนื้อเยื่อนี้ยึดติดมากกว่าปกติ ส่งผลให้มีฟันหน้าห่างออกจากกันได้
  2. ขนาดฟันเล็กกว่าขากรรไกร หากมีฟันขนาดเล็กกว่าขากรรไกรหรือมีขากรรไกรที่ใหญ่เกินไป อาจส่งผลให้ฟันเรียงตัวห่างจากกันเพื่อเติมเต็มพื้นที่ขากรรไกร ซึ่งขนาดของฟันและขากรรไกรมีปัจจัยทางพันธุกรรมเป็นตัวกำหนด หากพ่อแม่ฟันห่างก็มีโอกาสที่บุตรหลานจะมีฟันห่างไปด้วย
  3. เนื้อเยื่อขอบเหงือกเจริญเติบโตมากเกินไป หากมีเนื้อเยื่อขอบเหงือกบริเวณฟันหน้าส่วนบนมากเกินไป อาจไปดันหรือขวางฟันให้แยกออกจากกันจนเกิดช่องห่างมากขึ้นเรื่อย ๆ
  4. ภาวะลิ้นดันฟัน เกิดขึ้นในเด็กโตและผู้ใหญ่ที่มีการกลืนต่างจากคนทั่วไป โดยแทนที่ลิ้นจะแตะบริเวณเพดานปากขณะกลืน แต่ลิ้นกลับไปดันฟันหน้า ซึ่งการเกิดแรงกดต่อฟันหน้าอย่างมากเกินไปก็อาจทำให้ฟันห่างได้
  5. โรคเหงือก การติดเชื้อจนเกิดโรคเหงือกเป็นสาเหตุของฟันห่างได้ เพราะส่งผลให้เกิดการอักเสบและสร้างความเสียหายต่อเหงือกและเนื้อเยื่อที่รองรับฟัน ทำให้ฟันโยกและเกิดช่องว่างระหว่างฟันตามมา ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้อาจสังเกตได้จากอาการเหงือกบวมแดง กระดูกฟันเสียหาย ฟันโยก และมีเลือดออกตามไรฟัน
  6. ฟันหลุดหรือถอนฟัน การมีฟันไม่ครบหรือมีเหตุให้ต้องถอนฟันแม้แต่ 1 ซี่ ก็อาจนำมาซึ่งปัญหาฟันห่างได้
  7. มีฟันเกินงอกขึ้นมา บางคนอาจมีฟันเกินอยู่บริเวณกระดูกขากรรไกรและกันไม่ให้ฟันซี่อื่น ๆ งอกขึ้นมาได้ จนส่งผลให้มีช่องว่างระหว่างฟัน ในขณะที่การถอนฟันที่เกินมาออกไปก็อาจทำให้เกิดช่องว่างได้เช่นกัน
  8. ติดนิสัยดูดนิ้ว เด็กที่ชอบดูดนิ้วอาจมีฟันหน้าห่างเนื่องจากแรงดันจากการดูดนิ้ว

ไม่ว่า ฟันจะห่าง จากสาเหตุอะไร ด้วยความก้าวหน้า ทางทันตกรรม เราสามารถแก้ไขได้  และ มีวิธีการแก้ไข ได้อย่างหลากหลายวิธี โดย ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หมอฟัน CDC ทันตกรรมฟันห่าง

ทันตกรรมฟันห่าง ฟันหน้า่าง ร่องฟันห่าง รักษาได้